| คุณลองหยิบเหรียญบาทขึ้นมา 1 เหรียญแล้วลองมองเหรียญในมือคุณ
 คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า
 ทำไม? คุณมองเห็นเหรียญได้เพียงแค่ด้านเดียว
 ทำไม? คุณถึงไม่สามารถมองเห็น
 ทั้ง 2 ด้านของเหรียญได้พร้อมๆกัน
 ด้านของเหรียญก็เปรียบเสมือนกับตัวคุณที่มีทั้งด้านบวก และด้านลบ
 คนเรามักจะมองเห็นแต่ข้อดีของตัวเองและชอบที่จะมองความผิดพลาดของผู้อื่น
 การที่คุณมองเห็นแต่ข้อดีของตัวเองก็เหมือนกับการที่คุณมองเหรียญ
 แค่เพียงด้านเดียว
 จะมีน้อยคนนักที่จะยอมเสียสละเวลา
 มองเหรียญให้ครบทั้ง2ด้าน
 เพราะธรรมชาติของมนุษย์มักจะเข้าข้างตัวเอง
 และคิดเสมอว่า
 สิ่งต่างๆที่ตนทำอยู่นั้น
 ถูกต้องเสมอ
 แต่จะมีน้อยคนนัก
 ที่ชั่งใจได้ ระหว่างถูก กับผิด
 ถ้าคุณเป็นคนประเภทที่ชอบเข้าข้างตัวเองอยู่เสมอลองหยิบเหรียญขึ้นมา 1 เหรียญ
 ยอมสละเวลาสัก 2-3 นาที
 นั่งพิจารณาเหรียญที่ละด้าน
 แล้วคุณจะเห็นความต่าง
 ว่าเหรียญยังมีทั้งหัวและก้อย
 แล้วนับประสาอะไรกับคน
 ที่มีทั้งด้านบวก และลบในตัว
 ถ้าคุณเข้าใจถึงธรรมชาติของเหรียญได้ คุณก็จะเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์
 และเข้าใจตัวคุณเอง
 เมื่อคุณเข้าใจตัวคุณเองแล้วคุณก็จะเข้าใจผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น
 และพร้อมที่ยอมรับผู้อื่น
 ที่มีทั้งด้านบวก และด้านลบ
 เหมือนกับตัวคุณ
 ถ้าคุณมองเหรียญทั้ง2ด้านแล้วยังหาด้านลบของตัวคุณเองไม่เจอ
 คุณลองให้เพื่อนของคุณนั่งหันหน้าเข้าหาคุณ
 แล้ววางเหรียญตั้งไว้ตรงกลาง
 คุณจะเห็นเหรียญด้าน 1
 และเพื่อนของคุณก็จะเห็นเหรียญอีกด้านหนึ่ง
 ที่คุณมองไม่เห็น
 สิ่งที่เพื่อนของคุณเห็นก็คือด้านอีกด้านหนึ่งในตัวคุณ
 ที่ต้องใช้สายตารอบๆด้านในการมอง
 ที่ผู้อื่นจะเห็นได้ชัดเจนกว่าตัวคุณ
 เพราะคนเรามักจะมองเห็น
 ความผิดพลาดของคนอื่นได้ดีกว่า
 แต่ฉันไม่ได้หมายความว่า
 เพื่อนของคุณเป็นคนไม่ดี
 ที่ชอบมองแต่ความผิดพลาดของผู้อื่น
 แต่ฉันแค่จะบอกว่า
 ในบางครั้ง
 การส่องกระจกก็ทำให้เรา
 เห็นตัวเองแค่ด้านหน้าเท่านั้น
 แต่ถ้าเรามีเพื่อน
 ที่คอยมองข้างหลังให้เรา
 เราก็จะสามารถเห็นตัวเองได้รอบด้าน
 และชัดเจนมากยิ่งขึ้น
 ลองเปิดใจให้กว้างและพร้อมจะยอมรับฟังข้อบกพร่องของตัวเอง
 ที่คนอื่นมองเห็นแต่ตัวคุณมองไม่เห็น
 เพราะคนเราไม่สามารถมองเห็นถึงข้อเสียของตัวเองได้
 ถ้าไม่มีใครคอยบอก
 ก็เหมือนกับการที่คุณไม่สามารถ
 มองเห็นเหรียญได้พร้อมกันทั้ง2ด้านนั่นเอง
 |